าตรฐานสิ่งทอป้องกันแสงอัลตราไวโอเลต

ปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสนใจในเรื่องการป้องกันแสงแดดมากขึ้น เพราะนอกจากผิวหนังจะถูกทำลายแล้ว ยังมีผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการสัมผัสกับรังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดดอีกด้วย การป้องกันอันตรายจากรังสีอัลตราไวโอเลตทำได้ 3 วิธี โดยการลดระยะเวลาที่สัมผัสแสง การใช้สารป้องกันแสงแดด และการเลือกใช้สิ่งทอที่มีสมบัติในการป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลต
ความสามารถในการป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลต (Ultraviolet protection factor : UPF) ของวัสดุสิ่งทอขี้นอยู่กับโครงสร้างของผ้า ช่องว่างระหว่างเส้นด้าย ชนิดของเส้นใย สี และ ปริมาณของสารฟอกนวลและสารดูดซับรังสีอัลตราไวโอเลต นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับสารลดความเงามัน เช่น ไทเทเนียมไดออกไซด์ (TiO2) ที่เติมลงในเส้นใยด้วย ค่า UPF จะเป็นตัวกำหนดความสามารถในการป้องกันแสงแดดของวัสดุสิ่งทอ โดยบอกเป็นอัตราส่วนของปริมาณรังสีอัลตราไวโอเลตที่สัมผัสผิวเมื่อมีผ้าทดสอบป้องกันอยู่ต่อปริมาณรังสีที่สัมผัสผิวเมื่อไม่มีผ้าทดสอบ โดยทั่วไปค่า UPF จะอยู่ในช่วง 30-50 สิ่งทอที่มีค่า UPF เท่ากับ 50 นั้นจะยอมให้รังสีอัลตราไวโอเลตเพียงแค่ 1 ใน 50 ส่วนของรังสีที่ตกกระทบพื้นผิววัสดุผ่านทะลุได้ ซึ่งหมายความว่า สามารถป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตได้ถึง 98% โดยการทดสอบด้วยมาตรฐาน AATCC 183 ซึ่งเป็นมาตรฐานที่กำหนดไว้ในหลักเกณฑ์การรับรองฉลาก Smart Fabric ทดสอบทั้งก่อนและหลังซัก 20 ครั้ง ต้องมีค่า UPF 50
การกำหนดค่า UPF ของผืนผ้าตามการทดสอบมาตรฐานสากลจะอยู่ในช่วง 15-50 ค่า UPF ยิ่งสูงจะยิ่งบอกถึงสมรรถนะในการป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตของวัสดุ สำหรับผ้าที่ผ่านการทดสอบแล้วพบว่ามีค่า UPF สูงกว่า 50 นั้น จะกำหนดค่าความสามารถในการป้องกันรังสีเป็น UPF 50+
ค่า UPF = 50 (หรือ 50+) หมายถึง มีความสามารถในการป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตได้สูงสุด
ค่า UPF = 40-49 หมายถึง มีความสามารถในการป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตได้ยอดเยี่ยม (ปริมาณรังสีที่ป้องกันได้อยู่ในช่วง 97.5 %)
ค่า UPF = 25-39 หมายถึง มีความสามารถในการป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตได้ดีมาก (ปริมาณรังสีที่ป้องกันได้อยู่ในช่วง 96.0-97.4%)
ค่า UPF = 15-24 หมายถึง มีความสามารถในการป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตได้ดี
(ปริมาณรังสีที่ป้องกันได้อยู่ในช่วง 93.3-95.9 %)
ส่วนการบ่งชี้ความสามารถในการป้องกันการถูกทำลายของผิวหนังจากการสัมผัสรังสีอัลตราไวโอเลตจะบอกในเทอมของความสามารถในการป้องกันแสงแดด (Sun protection factor : SPF) ซึ่งจะวัดเป็นระยะเวลาที่สารป้องกันแสงแดด (sun screen) สามารถปกป้องผิวจากการถูกแสงแดดเผา โดยจะมีค่าอยู่ในช่วง 2-100 ค่า SPF จะเป็นค่าที่บ่งบอกถึงความสามารถของวัสดุที่จะป้องกันแสงแดดที่เผาทำลายผิว แต่ประสิทธิภาพของวัสดุหรือสารเคมีในการป้องกันรังสีไม่ได้ขึ้นอยู่กับค่า SPF ของวัสดุกับระยะเวลาในการที่ผิวสัมผัสกับแสงแดดเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับปริมาณความเข้มของแสงที่ผิวถูกสัมผัส ช่วงเวลา (เช่นตอนเช้า หรือ ตอนเย็น) ตำแหน่งที่อยู่รวมทั้งสภาวะอากาศแวดล้อมด้วย สิ่งทอที่มีคุณสมบัติป้องกันรังสียูวีจึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้รังสีผ่านมากระทบกับผิวโดยง่าย การเลือกใช้สิ่งทอเพื่อปกป้องร่างกายหากต้องสัมผัสกับแสงแดดจึงควรพิจารณาให้รอบคอบ ซึ่งการมองหาฉลาก Smart Fabric เป็นสัญลักษณ์ที่จะระบุคุณสมบัติพิเศษของสิ่งทอ ที่ได้รับการรับรองโดยสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอเป็นอีก 1 ตัวช่วยในการตัดสินใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สิ่งทอป้องกันรังสียูวีที่มีคุณภาพได้
เรียบเรียงจาก สิ่งทอป้องกันแสงอัลตราไวโอเลต (Ultraviolet Protection Textiles)
ของ ดร. ประเทืองทิพย์ ปานบำรุง
สาขาวิชาวิศวกรรมเคมีสิ่งทอ คณะอุตสาหกรรมสิ่งทอ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ